การวิเคราะห์ห่วงโซ่คุณค่า : Value Chain Analysis
สวัสดี ครับ ช่วงนี้ เราห่างหายการเขียนบทความมาให้สมาชิกได้อ่านกัน เพราะช่วงนี้เราไปช่วยงานรัฐวิสาหกิจหลายที่มาก และต้องใช้เวลากับความคิดเยอะมากเลยห่างหายการเขียนบทความไปครับ
วันนี้ เรามาคุยกันในเรื่องของการวิเคราะห์ห่วงโซ่คุณค่า เพื่อให้บรรลุความเป็นเลิศในสิ่งที่สำคัญจริงๆ หมายถึง สิ่งที่คุณถนัด สิ่งที่คุณทำได้ดีและเก่งเกินเพื่อนๆ ในกลุ่มเดียวกัน หรือคู่แข่งของคุณ เป็นต้น
การวิเคราะห์ห่วงโซ่คุณค่าเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์สำหรับการทำงาน และใช้ออกแบบหรือวางแผนงานในธุรกิจของคุณเพื่อที่จะสร้างมูลค่าเพิ่มให้ได้มากที่สุดสำหรับลูกค้าของคุณ
ในธุรกิจปัจจุบัน เรากำลังใช้จ่ายให้กับปัจจัยการผลิตที่เป็นวัตถุดิบและนำไปผ่านกระบวนการทางอุตสาหกรรมเพื่อแปรรูป “เพิ่มคุณค่าหรือมูลค่า” ให้กับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของพวกเขา เพื่อให้กลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้รับสินค้าไปแล้วรู้สึก “คุ้มค่า” สิ่งนี้เป็นเรื่องง่ายสำหรับกระบวนการทำงานของผู้ผลิตระดับอุตสาหกรรม เช่น การนำเยื่่อไม้ มาผ่านกระบวนการแปรรูปของการผลิตแบบอุตสาหกรรมและแปลงมันให้เป็นสิ่งที่กลุ่มลูกค้าเป้าหมายต้องการ คือ กระดาษ เป็นต้น
นักธุรกิจส่วนใหญ่และผู้ประกอบการทั้งรายเล็กและรายใหญ่ ต่างจะพุ่งเป้าไปที่การแปรรูปวัตถุดิบหรือการให้บริการแก่ลูกค้าให้ตรงกับความต้องการ โดยเน้นที่ ความรวดเร็ว ความสะดวกสบาย การเพิ่มมูลค่า หรือการเพิ่มคุณค่า การเพิ่มประโยชน์และประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ แต่ทั้งหมดนี้พวกเขาลืมไปว่า “ลูกค้าของคุณไม่จำเป็นจะต้องอยู่ภายนอกองค์กรของคุณ“ พวกเขาสามารถบังคับบัญชาเพื่อนร่วมงานของคุณหรือกลุ่มคนที่ขึ้นอยู่กับการทำงานของคุณ
ส่วนนี้มีความสำคัญจริงๆ : การเพิ่มมูลค่าที่คุณคิดสร้างสรรค์ และผู้คนส่วนมากยินดีที่่จะจ่ายเงินเพื่อซื้อสินค้าหรือบริการของคุณ และนอกเหนือจากนั้นพวกเขาทั้งหลายต้องการซื้อจากคุณเท่านั้น ในระดับของความเป็นส่วนตัว ถ้าคุณวางแผนจะเพิ่มมูลค่าจำนวนมากเข้าไปในทีมงานของคุณ ซึ่งจะทำให้ทีมงานของคุณจะเก่งในสิ่งที่คุณกำลังจะทำ หลังจากนั้นคุณควรจะคาดหวังว่าได้รับการตอบแทนที่สอดคล้องกับผลงานของคุณ
ดังนั้น คุณจึงจำเป็นที่จะต้องค้นหาวิธีการที่คุณและทีมงาน หรือ บริษัทของคุณ สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้?
นี่คือ “การวิเคราะห์ห่วงโซ่คุณค่า” เครื่องมือที่มีประโยชน์ การวิเคราะห์ห่วงโซ่คุณค่าจะช่วยให้คุณระบุวิธีที่คุณสร้างมูลค่าให้กับลูกค้าของคุณ ต่อจากนั้นจะช่วยให้คุณคิดค้นวิธีที่คุณจะสามารถเพิ่มความคุ้มค่านี้ไม่ว่าจะผ่านผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยม หรือบริการที่เป็นเลิศ ที่เป็นผลงานของคุณ
หมายเหตุ :
เราอยากให้คุณอ่านบทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม คือ 5 Forces Tools ของ Professor Michael Porter เพื่อให้เกิดควาามเข้าใจในเชิงลึกและกว้างอีกครั้ง
วิธีการใช้เครื่องมือ :
การวิเคราะห์ห่วงโซ่คุณค่า เป็นกระบวนการ 3 ขั้นตอน ดังนี้
1. การวิเคราะห์กิจกรรม : ครั้งแรกที่คุณระบุกิจกรรมที่คุณจะดำเนินการส่งมอบสินค้า หรือ บริการของคุณ
2. การวิเคราะห์คุณค่า : การวิเคราะห์คุณค่าของแต่ละกิจกรรมที่คุณคิดว่ามีความจำเป็น และแนว ทางหรือกระบวนการวิธีการที่คุณจะทำอย่างไร? อะไรที่คุณจำเป็นจะต้องทำเพิ่ม? อะไรคือคุณค่าสูงสุดที่ลูกค้าต้องการจากคุณ?
3. การประเมินผลและการวางแผน : คุณจำเป็นที่จะต้องประเมินว่าจะมีมูลค่าการเปลี่ยนแปลง จากการเพิ่มคุณค่าลงไปในผลิตภัณฑ์ หรือ บริการของคุณอย่างไร? หลังจากนั้นก็วางแผนสำหรับการ กระทำเหล่านั้น
ขั้นที่ 1. การวิเคราะห์กิจกรรม
ขั้นตอนแรกจะมีการระดมความคิดเกี่ยวกับกิจกรรมที่คุณหรือทีมงาน หรือ บริษัทของคุณ จะต้องดำเนินการเพื่อเพิ่มประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า
กระบวนการคิดนี้อยู่ในส่วนของกระบวนการกิจกรรมทางธุรกิจ ที่คุณใช้เพื่อบริการลูกค้า รวมทั้งการตลาดของผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณ เช่น เป้ายอดการสั่งซื้อจากลูกค้า กระบวนการปฎิบัติงาน กระบวนการจัดส่ง ส่วนงานสนับสนุน และอื่นๆ (นี้เป็นเพียงบางส่วน ซึ่งคุณจำเป็นที่จะต้องคิดเกี่ยวกับกระบวนการหรือขั้นตอนอื่นๆ อีกมากมาย หรือกระบวนการที่เฉพาะเจาะจงในอุตสาหกรรมของคุณ)
ในระดับบุคคลหรือทีมงานที่เกี่ยวข้องกับการไหลของขั้นตอนการทำงานที่คุณดำเนินการหรือมีส่วนร่วม เช่น
- วิธีการที่คุณใช้เลือกพนักงานและทีมงานที่มีทักษะและความชำนาญด้านบริการที่ดีที่สุด อย่างไร?
- วิธีการที่คุณกระตุ้นตัวคุณเองหรือทีมงานของคุณให้ทำงานอย่างดี มีประสิทธิภาพ อย่างไร?
- วิธีการที่ทำให้คุณทันสมัย ก้าวทันเทคโนโลยี ใช้เทคนิคในการผลิตที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด และเพิ่มผลผลิตด้วยขั้นตอนที่สั้นลง อย่างไร?
- วิธีการที่คุณเลือกและพัฒนาเทคโนโลยีด้านการผลิตและการให้บริการที่ดี ที่ทำให้คุณก้าวทันหรือเหนือกว่าคู่แข่ง อย่างไร?
- วิธีการที่คุณได้รับการตอบรับจากลูกค้าของคุณ เกี่ยวกับวิธีการที่คุณทำ และวิธีการที่คุณสามารถปรับปรุงเพิ่มเติม
เคล็ดลับ :
ถ้าคุณดำเนินการระดมความคิดให้มากที่สุด และทำการวิเคราะห์การทำงานที่อยู่เบื้องหลัง รวมทั้งวิเคราะห์ “คุณค่าที่ได้” กับ “ทีมงานของคุณ” เชื่อมั่นได้เลยจะต้องได้คำตอบมากกว่าที่คุณคิดเบื้องต้น ถ้าคุณทำงานนี้ด้วยตัวของคุณเอง นอกจากนี้คุณยังอาจจะพบว่าทีมงานของคุณมีแนวโน้มที่จะ “ซื้อความคิดของคุณ” ตรงข้อสรุปเงื่อนไขใดๆ ที่คุณวาดกรอบของการปรับปรุงพัฒนาเพื่อเพิ่มคุณค่าให้กับทีม และมากพอที่พวกเขาจะยอมทำอย่างที่คุณต้องการ
เมื่อคุณได้ทำการะดมสมองที่จะปรับปรุงกิจกรรมที่จะเพิ่มมูลค่าให้กับบริษัทของคุณ ในรายการของทีมงานคุณ วิธีการที่เป็นประโยชน์ของการทำเช่นนี้ คือ การวางตำแหน่งของพวกเขาออกมาในรูปแบบของแผนภูมิการไหลของานแบบง่ายๆ (Work Flow Process) ซึ่งจะช่วยให้การแสดงออกของความคิดเป็นลำดับขั้นในรูปแบบของ “ห่วงโซ่คุณค่า” ของคุณ ซึ่งสามารถดูตัวอย่างได้จากตารางด้านล่างนี้
ขั้นที่ 2. การวิเคราะห์คุณค่า
ขั้นตอนนี้จะเป็นการวิเคราะห์กิจกรรมที่คุณได้ระบุในแต่ละรายการ “ปัจจัยที่คุ้มค่า” สิ่งที่มีคุณค่าต่อลูกค้าของคุณในแต่ละกิจกรรมที่จะดำเนินการ
ตัวอย่าง ถ้าคุณคิดเกี่ยวกับโทรศัพท์ กระบวนการสั่งการ ลูกค้าของคุณจะเป็นคำตอบที่เร็วที่สุดในการเลือกโทรหาเขา หรือ เธอ เป็นการโทรศัพท์ด้วยความสุภาพอ่อนน้อม ระบบการรับรายละเอียดการสั่งซื้อที่มีประสิทธิภาพ การตอบโต้กับลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว ความรู้และความสามารถในการตอบคำถามลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ความละเอียดรอบคอบ และความรวดเร็วในการแก้ปัญหาใดๆ ที่เกิดขึ้น
หากคุณกำลังคิดเกี่ยวกับการส่งมอบบริการระดับมืออาชีพ สำรับลูกค้าของคุณมีค่ามากที่สุด ซึ่งนี้จะเป็นทางออกที่ถูกต้อง และมีวิธีการแก้ไขปัญหาด้วยข้อมูลที่ทันสมัยสมบูรณ์ สามารถนำไปปฎิบัติได้
ขั้นที่ 3. การเปลี่ยนแปลงการประเมินและวางแผนสำหรับการดำเนินการ
หลังจากที่คุณได้ทำการวางแผนตามกระบวนการทำงานตั้งแต่ขั้นที่ 1 และขั้นที่ 2 เสร็จแล้ว คุณจะได้แนวทางที่มีคุณค่าในการเพิ่มการส่งมอบให้กับลูกค้า และถ้าคุณสามารถส่งมอบสิ่งเหล่านี้ให้กับบริการของคุณ มันอาจจะกลายเป็นสิ่งที่เหลือเชื่อสำหรับคุณและทีมงานได้
ขั้นตอนนี้คุณจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนแปลงบางอย่างเพื่อให้ที่มงานของคุณสามารถทำได้จริง ภายใต้ศักยภาพและประสิทธิภาพในปัจจุบัน ซึ่งคุณจำเป็นที่จะต้องออกแรงเกิน 100% ที่จะชักนำและทำให้การทำงานที่วางแผนไว้เกิดประสิทธิผลอย่างที่ตั้งเป้าไว้
Tip :
คุณจำเป็นที่จะต้องเลือกกระบวนการที่เปลี่ยนแปลงได้รวดเร็ว ราคาถูก สามารถทำได้จริง เพื่อกระตุ้นจิตวิญญาณของทีมงานให้ต่อสู้อย่างไม่สิ้นสุด
คุณจำเป็นที่จะต้องจัดลำดับความสำคัญของงานที่เหลือยู่ และวางแผนที่จะจัดการร่วมกับพวกเขา ด้วยวิธีการตามขั้นตอนที่ได้มีการวางแผนปรับปรุงในขั้นตอนที่ 2 ซึ่งจำเป็นจะต้องทำอย่างต่อเนื่องและรวดเร็วเพื่อให้เกิดความกระตือรือร้นในทีมงานของคุณ
เคล็ดลับ :
ถ้าคุณมีความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งพอ หรือมีความน่าเชื่อถือมากขึ้นในความคิดของลูกค้า คุณก็อาจจะมีมูลค่าพอที่จะนำเสนอข้อสรุปของคุณไปเล่าให้พวกเขาฟัง เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับพวกเขา นี้เป็นวิธีการที่ดีที่จะยืนยันว่าคุณกำลังตอบสนองความต้องการของพวกเขาด้วยมูลค่าที่สูงขึ้น และได้รับความรู้สึกที่ดี เกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขาต้องการจริงๆ
ตัวอย่าง :
คุณลักษมี เป็นผู้จัดการด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์สำหรับ Software House เธอและทีมงานของเธอมีการจัดการปรับปรุงซอฟต์แวร์ในเวลาอันสั้น สำหรับลูกค้าเป็นจำนวนมาก ซึ่งเธอใช้วิธีการพัฒนาทีมงานด้วยการวิเคราะห์คุณค่าของเธอและทีมงานด้วย ” ห่วงโซ่คุณค่า” เพื่อที่จะหาวิธีที่พวกเขาจะสามารถส่งมอบบริการที่เป็นเลิศให้กับลูกค้าของเขา
ในระหว่างการวิเคราะห์ขั้นตอนของกิจกรรมส่วนหนึ่ง พวกเขาระบุกิจกรรมว่ากิจกรรมต่อไปนี้สร้างมูลค่าให้กับลูกค้า :
- การสั่งซื้อ
- ข้อกำหนดการเพิ่มประสิทธิภาพของงาน
- การกำหนดเวลาเสร็จที่แน่นอน
- วิธีการพัฒนาซอฟต์แวร์
- การทดสอบโปรแกรม
- การทดสอบรอบ 2
- กระบวนการจัดส่งสินค้า
- การให้การสนับสนุนแก่ลูกค้า
คุณลักษมี ได้กำหนดเครื่องหมายสัญญาลักษณ์ตรงขั้นตอนของกิจกรรมในห่วงโซ่คุณค่าเหล่านี้ นอกจากนี้ คุณลักษมี ได้มีการกำหนดกิจกรรมที่พัฒนาทีมงานภายในที่สำคัญ :
- กระบวนการรับสมัครพนักงาน : เลือกคนที่มีประสบการณ์และสามารถทำงานที่ต้องการได้ดี
- การฝึกอบรม : ช่วยให้สมาชิกในทีมงานพัฒนาได้อย่างรวดเร็ว ช่วยให้สมาชิกในทีมมีความรู้เกี่ยวกับซอฟต์แวร์ใหม่ๆ เทคนิคและเทคโนโลยีที่พวกเขามีการพัฒนา
คุณลักษมี ได้กำหนดเครื่องหมายในกิจกรรมของ ห่วงโซ่คุณค่า เหล่านี้บนกระดานไวท์บอร์ดของเธอ ดังตัวอย่างด้านล่าง :
ขั้นตอนถัดไปเธอและทีมงานของเธอมุ่งเน้นในกระบวนการสั่งซื้อ การดำเนินการระบุปัจจัยที่จะให้มูลค่าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดให้กับลูกค้า เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการนี้ พวกเขาได้ระบุปัจจัยคุณค่า ดังต่อไปนี้
- ให้คำตอบอย่างรวดเร็วด้วยการโทรศัพท์ไปหา
- มีความรู้ที่ดีเกี่ยวกับการพัฒนาโปรแกรม และเข้าใจสถานการณ์ทางธุรกิจของลูกค้า เพื่อไม่ให้ลูกค้าต้องเสียเวลาในการรอคอยที่นาน และจะไม่อธิบายสิ่งที่ไม่จำเป็นต่อลูกค้าเพื่อแก้ตัวที่ทำงานล่าช้า
- ตั้งคำถามที่ถูกต้อง และตรงกับความต้องการของลูกค้า และมีความเข้าใจความต้องการของลูกค้าได้อย่างครบถ้วน ถูกต้อง
- อธิบายกระบวนการในการพัฒนาให้กับลูกค้า และบริหารจัดการความคาดหวังของเขา หรือ เธอ ให้เป็นไปตามตารางเวลาที่จะทำการจัดส่ง
คุณสามารถมองเห็นสิ่งเหล่านี้ได้ใน “มูลค่าปัจจัย” คอลัมน์ของรูปที่ 1
จากนั้นพวกเขามองสิ่งที่พวกเขาต้องทำเพื่อให้คุณค่าสูงสุดให้กับลูกค้า สิ่งเหล่านี้จะแสดงในรูปที่ 1 “การเปลี่ยนแปลงที่จำเป็น” คอลัมน์
จากนั้นพวกเขามองสิ่งที่พวกเขาต้องทำเพื่อให้คุณค่าสูงสุดให้กับลูกค้า สิ่งเหล่านี้จะแสดงในรูปที่ 1 “การเปลี่ยนแปลงที่จำเป็น” คอลัมน์
แล้วพวกเขาทำเช่นเดียวกันสำหรับกระบวนการอื่นๆ
เมื่อระดมความคิดทั้งหมดจะเสร็จสมบูรณ์ คุณลักษมี และทีมงานของเธอจะสามารถระบุชัยชนะที่จะเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว ปฎิเสธผลงานที่มีคุณภาพต่ำ และมีค่าใช้จ่ายสูง และยอมรับความสำคัญของทีมงานของพวกเขา
สิ่งสำคัญ :
การวิเคราะห์ห่วงโซ่คุณค่าเป็นวิธีการที่มีประโยชน์ของการคิดผ่านวิธีการที่คุณส่งมอบคุณค่าให้ลูกค้าของคุณ และทบทวนทุกสิ่งที่คุณสามารถทำเพื่อเพิ่มมูลค่าได้
มันจะเกิดขึ้นเป็นกระบวนการตามขั้นตอน 3 ประการ :
- การวิเคราะห์กิจกรรม : คุณระบุกิจกรรมที่นำไปสู่การส่งมอบสินค้าหรือบริการของคุณ
- การวิเคราะห์คุณค่า : คุณระบุสิ่งที่มีคุณค่าของลูกค้า ในกระบวนการที่คุณดำเนินการแต่ละกิจกรรมแล้วมีผลงานออกมา และมีการเปลี่ยนแปลงถ้าจำเป็น
- การประเมินผลและการวางแผนการ : คุณตัดสินใจเลือกสิ่งที่จะต้องเปลี่ยนแปลง และทำการวางแผนว่าคุณจะทำให้พวกเขา
สุดท้ายนี้ เราเชื่อว่าทุกๆ คน จะเข้าใจกระบวนการคิดแบบ “ห่วงโซ่คุณค่า” และสามารถนำไปพัฒนากระบวนการทำงานในองค์กรของคุณ เพื่อให้เกิดความเป็นเลิศในด้านส่งมอบคุณค่าของผลิตภัณฑ์หรือบริการ ให้แก่ลูกค้า
เอกกมล เอี่ยมศรี
ผู้เรียบเรียง
ยังไม่มีความเห็น
ใส่ความเห็น