การสร้างกลยุทธ์การตลาดของคุณ : Creating you marketing strategy
สวัสดี ครับ
วันนี้ ขอเล่าเรื่องเกี่ยวกับวิธีการกำหนดกลยุทธ์การตลาดของคุณ ว่าควรจะทำอย่างไร เพราะหลายๆ คนอยากทราบทางทฤษฎี เขาคิดกันอย่างไร ซึ่งเราก็จะขอเล่าให้ฟังเลยนะครับ
การกำหนดเป้าหมายของคุณ
เมื่อคุณต้องการสร้างกลยุทธ์การตลาดของคุณ คุณจำเป็นจะต้องเข้าใจเป้าหมายของตลาดของคุณ คือ เฉพาะกลุ่มของผู้บริโภคที่ต้องการผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณ เพราะกลุ่มเหล่านี้จะเป็นลูกค้าที่ดีของคุณ และจะทำให้ธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จ
เมื่อคุณได้ทำการกำหนดเป้าหมายของคุณ และคุณได้ทำการพิจารณากลุ่มเป้าหมายผู้ที่คาดว่าจะซื้อสินค้าหรือบริการของคุณแล้ว คุณก็จำเป็นจะต้องเริ่มกำหนดกลยุทธ์ทางการตลาดสำหรับกลุ่มเป้าหมายเหล่านี้ เช่น :
- เพศหญิง หรือ เพศชาย
- กลุ่มอายุ
- พื้นที่ หรือ ภูมิภาค
- การศึกษา หรือ สิ่งที่พวกเขาสนใจ
- อาชีพ
- รายได้เฉลี่ย
นอกจากนี้คุณควรพิจารณาวิธีการที่แตกต่างของกลุ่มลูกค้าแต่ละกลุ่มที่มีศักยภาพอาจใช้ผลิตภัณฑ์ หรือบริการของคุณ หรือ บริการของคุณ เช่น ลูกค้าเก่าที่อาจจะมีความปรารถนา และความต้องการที่แตกต่างกัน ขณะที่ลูกค้าเก่าที่มีอายุน้อยกว่า ดังนั้นคุณอาจจะมีตลาดเป้าหมายต่างๆ เพื่อมุ่งเน้นไปยังกลุ่มลูกค้าแต่ละกลุ่ม
ทำความเข้าใจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณ
คุณสามารถระบุตลาดเป้าหมายของคุณได้ ถ้าคุณเข้าใจถึงประโยชน์ของผลิตภัณฑ์ของคุณและคุณสมบัติที่พิเศษโดดเด่นเหนือคู่แข่ง คุณควรจะพิจารณาสิ่งต่างๆ ต่อไปนี้เพื่อประเมินเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของคุณ
- วัตถุประสงค์ของผลิตภัณฑ์ที่คุณผลิตคืออะไร? ผลิตภัณฑ์นี้สามารถตอบสนองต่อปัญหาหรือความต้องการขั้นพื้นฐานของลูกค้า หรือ เป็นการสร้างความหรูหรามีคุณค่าด้านความรู้สึกให้กับกลุ่มลูกค้า ?
- ข้อได้เปรียบของสินค้าของคุณมีมากกว่าคู่แข่งในประเด็นใด?
- ผลิตภัณฑ์ของคุณสามารถแก้ไขปัญหาของลูกค้าได้ในระยะยาว หรือ แค่ปัญหาเฉพาะหน้า?
- ผลิตภัณฑ์ของคุณสามารถถูกเลียนแบบได้ง่ายหรือยากสำหรับคู่แข่ง ?
- ผลิตภัณฑ์ของคุณสามารถหาซื้อได้ง่ายหรือจำเป็นจะต้องไปที่สาขาเฉพาะของคุณเท่านั้น จึงจะสามารถหาซื้อได้ ?
ค้นหากลุ่มลูกค้าของคุณ
การค้นหากลุ่มลูกค้าของคุณเป็นสิ่งที่สำคัญพอๆ กับการที่คุณจะสร้างผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณตามความต้องการของตลาดและกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย เพราะกลยุทธ์ของคุณจะล้มเหลวทันทีถ้าคุณกำหนดเป้าหมายผิดตั้งแต่เริ่มต้นโดยไม่คำนึงถึงวิธีการที่ดี คือ:
คุณจะขายอะไร? คุณจะต้องรู้ก่อนว่าคุณจะขายให้ใคร? คุณมีความรู้เกี่ยวกับพวกเขามากน้อยแค่ไหน? มูลค่าตลาดมีขนาดเท่าใด? คู่แข่งของคุณเป็นใคร? ใครเป็นเจ้าตลาดอยู่ตอนนี้? Margin ในตลาดเป็นอย่างไร? รูปแบบการแข่งขันรุนแรงขนาดไหน? ฯลฯ สิ่งเหล่านี้เป็นคำถามที่คุณจะต้องหาคำตอบก่อนที่จะผลิตสินค้าหรือบริการ เพื่อจำหน่ายให้กับลูกค้า
เทคนิคเบื้องต้นในการกำหนดความแตกต่างของกลุ่มเป้าหมาย:
- กลุ่มลูกค้าแต่ละประเภท – มีปริมาณมูลค่าทางการตลาดมากเท่าใด? มีลักษณะการซื้อสินค้าอย่างไร? ฯลฯ
- ธุรกิจ – การขายสินค้าไปยังกลุ่มลูกค้าเหล่านี้มีการวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้า หรือไม่? มีการจัดเก็บฐานข้อมูลด้านวิจัยเกี่ยวกับความสนใจ และปัญหาของลูกค้าที่ต้องการให้แก้ไขหรือไม่? ปัญหาของคู่แข่งในตลาดที่ประสบอยู่ตอนนี้ คือ อะไร?
การวิจัยและจัดเก็บเกี่ยวกับฐานข้อมูลลูกค้าที่มีศักยภาพ
เมื่อคุณรู้ว่ากลุ่มของลูกค้าที่คุณได้ทำการเก็บวิจัยมานั้นแบ่งออกได้เป็นกี่กลุ่ม กี่ประเภท มีลักษณะพฤติกรรมอย่างไร และทำการวิเคราะห์ว่าคุณและทีมงานมีความพร้อมที่จะกระโดดเข้าไปในตลาดสินค้า หรือ บริการนี้หรือไม่? เช่น กลุ่มลูกค้าของคุณที่เป็นเด็กโต อาจจะมีพฤติกรรมในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างไปจากกลุ่มลูกค้าที่เป็นเด็กเล็กที่อายุน้อยกว่า เป็นต้น
“ส่วนแบ่งทางการตลาด” เป็นเครื่องมีอที่มีประสิทธิภาพมาก และจำเป็นจะต้องใช้เครื่องมือที่มีความซับซ้อนสูงมาก เพราะคุณจำเป็นจะต้องใช้การเก็บข้อมูลเชิงวิจัยที่เยอะมาก และนำข้อมูลมาทำการประมวลผลในทางสถิติ และทำการวิเคราะห์ค่าหาความสัมพันธ์ของตัวแปรทั้งหลายว่าเกิดจากปัจจัยอะไรบ้าง แล้วค่อยนำผลลัพธ์ที่ได้มาเทียบกับคุณลักษณะของผลิตภัณฑ์ หรือ บริการของคุณ
ข้อมูลที่จำเป็นจะต้องเก็บเพื่อนำมาใช้ในการวิเคราะห์ เช่น
- วิถีการดำเนินชีวิต
- ระดับชนชั้นทางสังคม
- ความคิดเห็นที่มีต่อสินค้าหรือบริการ (คู่แข่ง / ผลิตภัณฑ์ของคุณ)
- ความสนใจพิเศษ
- ทัศนคติดและความเชื่อถือ ในสินค้าหรือบริการ
นอกจากนี้คุณควรพิจารณาถึงปัจจัยต่อไปนี้ เพื่อนำมาใช้ในการตัดสินใจทางการตลาด เพื่อใช้กำหนดเป้าหมาย เช่น
- ขนาดของตลาด หรือมูลค่าของตลาด (Price x Quantity ) ขนาดตลาดใหญ่พอที่จะให้คุณกระโดดลงไปหรือไม่?
- ธุรกิจของคุณมีทักษะ หรือ ความเชี่ยวชาญที่สูงมากหรือใกล้เคียงกับคู่แข่งที่เป็นเจ้าตลาดอยู่ หรือไม่?
- อัตราการเติบโตในเซ็กเมนต์?
สุดท้ายนี้ คุณจำเป็นจะต้องรู้เขา รู้เรา ว่าคุณเก่งเรื่องอะไร มีความชำนาญขนาดไหน มีเงินทุนเพียงพอหรือไม่ เทคโนโลยีการผลิตเป็นอย่างไร มีแบรนด์สินค้าที่ติดตลาดอยู่แล้วหรือไม่ การแข่งขันในตลาดเป็นอย่างไร สัดส่วน Margin ของสินค้าคุ้มค่าการลงทุนหรือไม่ พฤติกรรมลูกค้าเป็นอย่างไร แนวโน้มของกลุ่มลูกค้าหลักกำลังเปลี่ยนทิศทางหรือ พลิกไปเป็นอย่างอื่นหรือไม่ เป็นต้น
เราเชื่อว่า ทุกๆ ท่านพอจะมีไอเดียเบื้องต้นในการสำรวจตลาดเพื่อกำหนดกลยุทธ์ทางการตลาดสำหรับสินค้า หรือ บริการของท่านในอนาคต
ขอให้ทุกๆ ท่านโชคดีมีชัย
เอกกมล เอี่ยมศรี
ผู้เรียบเรียง
การใช้ Linkedin เป็นเครื่องมือในการหาลูกค้าเป้าหมายของธุรกิจ
สวัสดีครับ
วันนี้ เราอยากจะคุยกันเรื่อง Marketing อีกสักครั้ง เพราะช่วงนี้ห่างหายเกี่ยวกับการเขียนเรื่อง Marketing ไปพอสมควร และเช้าวันนี้ได้อ่านบทความทางการตลาดของเว็บไซต์แห่งหนึ่งแล้วประทับใจ ก็เลยจะมานำเสนอให้ทุกๆ คนได้รับทราบกันครับ
ในบทความนี้เขาคุยกันเกี่ยวกับเครื่องมือที่จำเป็นในยุคปัจจุบันสำหรับการติดต่อสื่อสารกับสังคมออนไลน์ หรือ ใช้ในการติดต่อกับเพื่อนๆในกลุ่มเดียวกัน และได้มีการนำเรื่อง Linkedin มาเป็นประเด็นในการสนทนาระหว่างนั่งรับประทานอาหารกลางวัน
ดังนั้น เราจะนำบทสนทนาที่ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาด 2 ท่านนั่งคุยกันในระหว่างรับประทานอาหารมาเล่าสู่กันฟังนะครับ ทั้งคุยกันว่า Linkedin จะสามารถทำอะไรได้บ้าง
1) ขอขอบคุณสำหรับการรับการเชื่อมต่อของคุณ
การเชื่อมต่อ เป็นการเชื่อมต่อขนาดของเครือข่ายของคุณซึ่งทั้งหมดขึ้นอยู่กับปริมาณเครือข่ายของคุณว่ามีปริมาณมากน้อยแค่ไหน หรือคุณเป็นบุคคลที่สำคัญมากน้อยเพียงใดในกลุ่ม ดังนั้นเราอยากจะขอให้คุณขอบคุณเครือข่ายของคุณทุกคนที่รับการเชื่อมต่อ Linkedin เพราะการที่บุคคลอื่นยอมรับการเชื่อมต่อของคุณ เพราะนี้เป็นเวลาที่ดีที่คุณจะแนะนำตัวเอง และขยายเครือข่างทางธุรกิจ โดยการนำเสนอตัวคุณเองและธุรกิจจะต้องไม่เป็นการก้าวล้ำความเป็นส่วนตัวของพวกเขา และการแนะนำตัวเองของคุณจะต้องสร้างประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่งให้กับพวกเขาด้วย ไม่ใช่การเดินเข้าไปเคาะประตูบ้านคนอื่นๆ และยื่นสินค้าให้พร้อมกับบอกว่า 20 บาทครับค่าสินค้า โดยที่ผู้ที่เป็นเจ้าของบ้านยังไม่ทันตั้งตัวเกี่ยวกับการมาเยี่ยมเยือนของคุณเลยในครั้งนี้
คุณจะต้องระลึกเสมอว่า อย่าเสนอขายสินค้าให้กับใครๆ โดยที่คุณยังไม่รู้จักเขาดีพอว่าชอบอะไร ทำงานอะไร มีธุรกิจแบบไหน มีประสบการณ์ที่ไม่ดีเกี่ยวกับเรื่องอะไรมาบ้าง เพราะหลายคนคิดแต่จะหาประโยชน์ด้วยการสร้างเครือข่ายของตนให้เยอะขึ้นใหญ่ขึ้น เพื่อหาความน่าจะเป็นในกลุ่มผู้ซื้อสินค้าหรือร่วมธุรกิจ เพราะวันนี้เขาไม่สนใจก็ไม่เป็นไรถ้ามีโอกาสค่อยแนะนำใหม่ในอนาคต
2) การกระทำของกลุ่ม
คุณจะต้องไม่กลัวที่จะติดต่อกับเพื่อนๆ ในกลุ่มเครือข่ายที่มีอาชีพ ธุรกิจที่หลากหลาย นอกจากนี้เพื่อนๆในกลุ่มของคุณอาจจะเป็นพันธมิตรในทางธุรกิจได้ดีในอนาคต ซึ่งทั้งหมดขึ้นอยู่กับความสใจร่วมกันและวัตถุประสงค์ร่วมกันในทางธุรกิจ (หลายคนคิดว่า เรากำลังจะนำเสนอการทำธุรกิจแบบขายตรง หรือ MLM ไม่ใช่ครับ แต่เป็นการนำเพื่อนๆ ในกลุ่มของคุณให้มาร่วมออกความเห็นในการทำงานทางธุรกิจของคุณ เพื่อขอไอเดียใหม่ๆ หรือเป็นการอภิปรายของกลุ่ม) การที่คุณเริ่มให้ในกลุ่มทราบว่าคุณเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องอะไร? และคุณก็จะให้ความเห็นที่มีคุณค่าและน่าสนใจแก่กลุ่มเครือข่ายของคุณเสมอ ตรงนี้ถือเป็นจุดแข็งอย่างมากที่จะทำให้เพื่อนๆ ในเครือข่ายของคุณยอมรับในความเป็นมืออาชีพของคุณ
3) ใช้มัน และติดตามการเปลี่ยนแปลง
คุณจะต้องแน่ใจว่าคำเชิญของคุณในการส่งไปยังกลุ่มเป้าหมายหรือเพื่อนของเพื่อนแนะนำให้คุณรู้จักอีกทีด้วยการเชื่อมต่อ Linkedin ให้กับกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ / เพื่อนร่วมงาน / กลุ่มเป้าหมายหลังจากที่มีการประชุมหรือสัมมนางานต่างๆทุกครั้ง ซึ่งคุณจำเป็นจะต้องจดจำชื่อและเหตุการณ์ที่คุณได้พบเจอพวกเขาให้ได้ว่าพบเจอกันที่ไหน
ครับสุดท้ายนี้ก็ขอจบประเด็นที่ผู้เชี่ยวชาญ 2 ท่านนี้ได้คุยกันในช่วงเวลารับประทานอาหารกลางวัน จากประสบการณ์ส่วนตัว การพูดคุยกันในช่วงพัก หรือเวลารับประทานอาหารกลางวัน และอาหารค่ำแบบสบายๆ จะทำให้เกิดความคิดใหม่ๆ ที่คาดไม่ถึงเยอะมาก และนำมาใช้ได้จริง
ขอให้ทุกๆ ท่านโชคดี วันนี้วันแห่งครอบครัวครับ
เอกกมล เอี่ยมศรี
ผู้เรียบเรียง
ก